คำถามที่พบบ่อย
รวบรวมครั้งที่ 1/2553
1. คู่ความสามารถยื่นคำฟ้องหรือคำร้องในคดีล้มละลายต่อศาลที่คู่ความมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลนั้นได้หรือไม่ ?
ตอบ ในระหว่างที่ศาลล้มละลายภาคยังมิได้เปิดทำการในท้องที่ใด การยื่นคำฟ้องหรือคำร้องขอตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลายในส่วนคดีแพ่งอาจยื่นต่อศาลจังหวัดซึ่งลูกหนี้มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลหรือประกอบธุรกิจอยู่ในเขต ไม่ว่าด้วยตนเองหรือโดยตัวแทนในขณะยื่นฟ้องหรือคำร้องขอหรือภายในกำหนด 1 ปีก่อนนั้นก็ได้
2. เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว หากลูกหนี้ต้องการเดินทางออกนอกราชอาณาจักรจะต้องทำอย่างไร ?
ตอบ เมื่อลูกหนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว หากลูกหนี้ต้องการเดินทางออกนอกราชอาณาจักรต้องขออนุญาตจากศาลหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
3. เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว หากลูกหนี้ต้องการค่าใช้จ่าย ในชีวิตประจำวันจะต้องทำอย่างไร ?
ตอบ เมื่อลูกหนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว ลูกหนี้สามารถขอค่าเลี้ยงชีพต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ ซึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะจ่ายค่าเลี้ยงชีพลูกหนี้และครอบครัวตามสมควรแก่ฐานานุรูป
4. สามารถฟ้องให้ตนเองล้มละลายได้หรือไม่ ?
ตอบ การฟ้องคดีล้มละลาย สามารถทำได้ 5 กรณี คือ
(1.) เจ้าหนี้ธรรมดาเป็นผู้ยื่นฟ้อง
(2.) เจ้าหนี้มีประกันเป็นผู้ยื่นฟ้อง
(3.) ผู้ชำระบัญชีของนิติบุคคลร้องขอให้นิติบุคคลล้มละลาย
(4.) พนักงานอัยการยื่นฟ้อง ( ตาม พ.ร.ก. กู้ยืมเงิน ฯ )
(5.) บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทยร้องขอให้พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดลูกหนี้หรือผู้ค้ำประกัน
ดังนั้น จึงไม่สามารถฟ้องให้ตนเองล้มละลายได้
5. การขอรับชำระหนี้ในกรณีที่เป็นเจ้าหนี้มีประกันจะต้องทำอย่างไร ?
ตอบ โดยหลักแล้ว เจ้าหนี้มีประกันไม่จำต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ เนื่องจากเจ้าหนี้มีประกัน มีสิทธิเหนือทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันซึ่งลูกหนี้ได้ให้ไว้ก่อนถูกพิทักษ์ทรัพย์ แต่อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหนี้มีประกันต้องการยื่นคำขอรับชำระหนี้ก็สามารถทำได้ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดต่อไปนี้
(1.)เมื่อยินยอมสละทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันเพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้ทั้งหลายแล้ว ขอรับชำระหนี้ได้เต็มจำนวน
(2.)เมื่อได้บังคับเอาแก่ทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันแล้ว ขอรับชำระหนี้สำหรับจำนวนที่ยังขาดอยู่
(3.)เมื่อได้ขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขายทอดตลาดทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันแล้ว ขอรับชำระหนี้สำหรับจำนวนที่ยังขาดอยู่
(4.) เมื่อตีราคาทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันแล้ว ขอรับชำระหนี้สำหรับจำนวนที่ยังขาดอยู่
6. เหตุใดศาลจึงมีคำสั่งหยุดนับระยะเวลาการปลดจากล้มละลาย ?
ตอบ เนื่องจากบุคคลล้มละลายมิได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการรวบรวมทรัพย์สินโดยไม่มีเหตุอันควร โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อาจยื่นคำร้องขอต่อศาลเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้หยุดนับระยะเวลาการปลดจากล้มละลาย ทั้งนี้การหยุดนับระยะเวลาดังกล่าวต้องไม่เกิน 2 ปี
7. เมื่อลูกหนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว เจ้าหนี้รายอื่นจะฟ้องลูกหนี้เป็นคดีอื่นเพื่อบังคับชำระหนี้ได้หรือไม่ ?
ตอบ เจ้าหนี้ทุกรายที่มูลหนี้เกิดขึ้นก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา หรือเจ้าหนี้ที่คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยเจ้าหนี้จะต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายใน 2 เดือน นับแต่ประกาศคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในราชกิจจานุเบกษา แต่ถ้าเป็นเจ้าหนี้ที่อยู่นอกราชอาณาจักรจะขยายระยะเวลาในการยื่นคำขอรับชำระหนี้ออกไปอีกไม่เกิน 2 เดือน
8. คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลล้มละลายสามารถยื่นอุทธรณ์ได้หรือไม่ ?
ตอบ คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลล้มละลายสามารถอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาได้เฉพาะในกรณีดังต่อไปนี้
(1.)คำพิพากษายกฟ้อง หรือคำสั่งยกคำร้องหรือคำร้องขอให้ล้มละลาย
(2.)คำสั่งยกคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการ
(3.)คำสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
(4.)คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาด
(5.)คำพิพากษาหรือคำสั่งในคดีแพ่งเกี่ยวพันกับคดีตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลาย
9. คำสั่งปิดคดีคืออะไร ?
ตอบ เมื่อลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินจะให้แบ่ง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอให้ศาลสั่งปิดคดีได้ คำสั่งปิดคดีมีผลเพียงให้ระงับการจัดการต่างๆ ไว้ แต่ไม่ทำให้คดีล้มละลายสิ้นสุด
10. กำหนดระยะเวลาในการอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลล้มละลาย ?
ตอบ การอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลล้มละลายกลางให้อุทธรณ์ไปยังศาลฎีกาภายในกำหนด 1 เดือนนับแต่วันที่ได้อ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้น
11. การปลดจากการเป็นบุคคลล้มละลายจะปลดเมื่อใด ?
ตอบ เมื่อศาลมีคำพิพากษาให้ล้มละลายแล้ว บุคคลล้มละลายจะปลดจากการล้มละลายทันทีที่พ้นกำหนดระยะเวลา 3 ปี นับแต่วันที่ศาลได้พิพากษาให้ล้มละลาย เว้นแต่
1. บุคคลนั้นได้เคยถูกพิพากษาให้ล้มละลายมาก่อนแล้วและยังไม่พ้นระยะเวลาห้าปีนับแต่วันที่ศาลได้พิพากษาให้ล้มละลายครั้งก่อนจนถึงวันที่ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ครั้งหลังให้ขยายระยะเวลาเป็นห้าปี
2. บุคคลนั้นเป็นบุคคลล้มละลายทุจริตที่ไม่มีลักษณะตาม (3) ให้ขยายระยะเวลาเป็นสิบปี เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุผลพิเศษและบุคคลนั้นถูกศาลพิพากษาให้ล้มละลายมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี ศาลจะสั่งปลดจากล้มละลายก่อนครบกำหนดสิบปีตามคำขอของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือของบุคคลล้มละลายนั้นก็ได้
3. บุคคลนั้นเป็นบุคคลล้มละลายอันเนื่องมาจากหรือเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดอันมีลักษณะเป็นการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ให้ขยายระยะเวลาเป็นสิบปี
ในกรณีที่มีเหตุตาม (1) (2) หรือ (3) มากกว่าหนึ่งเหตุให้ขยายระยะเวลาโดยอาศัยเหตุใดเหตุหนึ่งที่มีระยะเวลาสูงสุดเพียงเหตุเดียว
12. หากลูกหนี้ต้องการขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายจะต้องทำอย่างไร ?
ตอบ เมื่อลูกหนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว หากต้องการประนอมหนี้ก่อนล้มละลายสามารถทำคำขอประนอมหนี้เป็นหนังสือยื่นต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
13. เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว ลูกหนี้ยังสามารถจัดการทรัพย์สินของตนเองได้หรือไม่ ?
ตอบ เมื่อศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว ห้ามมิให้ลูกหนี้กระทำการใดๆ เกี่ยวกับทรัพย์สิน หรือกิจการของตน ซึ่งอำนาจในการจัดการทรัพย์สินต่าง ๆ ของลูกหนี้จะตกอยู่ในความดูแลของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่เพียงผู้เดียว โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจและหน้าที่
1. ในการจัดการทรัพย์สินของลูกหนี้
2. ในการเป็นคู่ความในศาล
3. ในการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจจ้างทนายความเข้าทำการแทนได้
4. รายงานข้อความเกี่ยวกับกิจการ ทรัพย์สิน หรือความประพฤติของลูกหนี้ตามทีศาลต้องการ
5. ช่วยซักถามลูกหนี้หรือบุคคลอื่นในการที่ศาลดำเนินกระบวนการพิจารณา
14. เมื่อเจ้าหนี้ได้รับสำเนาคำร้องขอฟื้นฟูกิจการแล้ว เจ้าหนี้ต้องยื่นคำคัดค้านหรือไม่ และจะมีผลต่อการได้รับชำระหนี้หรือไม่ ?
ตอบ ตามกฎหมายล้มละลาย เจ้าหนี้จะยื่นคำคัดค้านหรือไม่ก็ได้ หากเจ้าหนี้ประสงค์จะยื่น คำคัดค้านจะต้องยื่นคำคัดค้านต่อศาลก่อนวันนัดไต่สวนคำร้องนัดแรกไม่น้อยกว่า 3 วัน ซึ่งการยื่นคำคัดค้านหรือไม่นั้น ไม่มีผลต่อการได้รับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ เนื่องจากเจ้าหนี้ยังคงมีสิทธิได้รับชำระหนี้ในฐานะเจ้าหนี้รายหนึ่ง
15. เหตุของการออกหมายจับลูกหนี้ในคดีล้มละลายมีอะไรบ้าง ?
ตอบ ลูกหนี้ในคดีล้มละลายจะถูกออกหมายจับนั้น ในกรณีที่ 1 ลูกหนี้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือคำสั่งศาล เช่น ไม่ไปให้การสอบสวนกิจการทรัพย์สินต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ หรือในกรณีที่ 2 ลูกหนี้ไม่มาศาลในวันนัดไต่สวนลูกหนี้โดยเปิดเผยโดยไม่มีเหตุจำเป็น ซึ่งหมายจับในส่วนคดีล้มละลายจะไม่มีการกักขัง คุมขัง หรือจำคุก แต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมเพื่อส่งตัวให้กับเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ในการรายงานตัวเท่านั้น
16. การยื่นฟ้องคดีล้มละลาย และการยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการ มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างหรือไม่ ?
ตอบ ในคดีล้มละลาย เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ต้องวางเงินประกันค่าใช้จ่ายต่อศาลเป็นจำนวน 5,000 บาทในขณะยื่นฟ้อง และค่าขึ้นศาลเป็นเงินจำนวน 500 บาท
ส่วนในคดีฟื้นฟูกิจการ ผู้ร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการต้องวางเงินประกันค่าใช้จ่ายต่อศาล 50,000 บาท และค่าขึ้นศาลเป็นเงินจำนวน 1,000 บาท
17. บุคคลภายนอกสามารถทำนิติกรรมกับลูกหนี้ในคดีฟื้นฟูกิจการได้หรือไม่ ?
ตอบ โดยหลักเกณฑ์แล้วเมื่อศาลมีคำสั่งรับคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการก็ตาม ห้ามมิให้ลูกหนี้จำหน่าย จ่าย โอน ให้เช่า ชำระหนี้ ก่อหนี้ หรือกระทำการใดๆ ที่ก่อให้เกิดภาระในทรัพย์สิน เว้นแต่เป็นการกระทำที่จำเป็นเพื่อให้การดำเนินการค้าตามปกติของลูกหนี้ ลูกหนี้ก็สามารถดำเนินต่อไปได้
18. ผู้ให้บริการสาธารณูปโภคสามารถระงับการให้บริการแก่ลูกหนี้ในคดีฟื้นฟูกิจการได้หรือไม่ ?
ตอบ เมื่อศาลมีคำสั่งรับคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการ ห้ามมิให้ผู้ประกอบการสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ งดให้บริการแก่ลูกหนี้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
19. เจ้าหนี้รายอื่นสามารถฟ้องบังคับชำระหนี้เอาแก่ลูกหนี้ในคดีฟื้นฟูกิจการได้หรือไม่ ?
ตอบ เมื่อศาลมีคำสั่งรับคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการ ห้ามมิให้เจ้าหนี้ในมูลหนี้ที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผน ฟ้องลูกหนี้เป็นคดีแพ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้ ในกรณีที่ฟ้องคดีไว้ก่อนแล้ว ให้ศาลดังกล่าวงดการพิจารณาไว้
- เมื่อลูกหนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ดังกล่าวจะมีผลบังคับ ถึงทรัพย์สินของคู่สมรสและบุตรของลูกหนี้หรือไม่ ?
ตอบ การฟ้องคดีล้มละลายเป็นเรื่องเฉพาะตัว ไม่มีผลบังคับแก่ทรัพย์สินของคู่สมรส หรือบุตร ในกรณีที่ทรัพย์สินดังกล่าวเป็นสินสมรสก็จะมีผลบังคับเฉพาะในส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ของลูกหนี้เท่านั้น
- กรณีที่บุคคลภายนอกมีชื่อและนามสกุลตรงกับลูกหนี้ในคดีล้มละลาย บุคคลภายนอกดังกล่าวจะต้องทำอย่างไร ?
ตอบ กรณีที่บุคคลภายนอกมีชื่อและนามสกุลตรงกับลูกหนี้ในคดีล้มละลาย แต่หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนไม่ตรงกัน บุคคลภายนอกดังกล่าวสามารถติดต่อขอให้ศาลรับรองว่าเป็นบุคคลคนละคนกันได้ โดยบุคคลภายนอกนั้นต้องมาติดต่อที่งานเก็บสำนวนดำหรืองานเก็บสำนวนแดงด้วยตนเองพร้อมกับบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ศาลรับรอง โดยเสียค่ารับรองฉบับละ 50 บาท
โดย นางสาวกัลยารัตน์ สุวรรณฉวี
นางสาวอธิวรรณ สวรรค์วัฒนกุล
ส่วนบริการประชาชนและประชาสัมพันธ์
ผู้รวบรวม
วันที่รวบรวม 22 ตุลาคม 2553
